จับได้แล้ว 1 มือติดจีพีเอสชี้เป้า ยิงหนุ่มแคนนาดา ดับคาวิลล่าหรูภูเก็ต
จับได้แล้ว 1 มือติดจีพีเอสชี้เป้า ยิงหนุ่มแคนนาดา ดับคาวิลล่าหรูภูเก็ต สอบเค้นขยายผลจับคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐาน
จากกรณี นายจิมมี่ ซิง ซานดู ชาวต่างชาติเชื้อสายอินเดีย ซึ่งถือสัญชาติแคนนาดา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าวิลล่าริมหาด โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ 1 ราย ที่เป็นคนลงมือแอบติดจีพีเอสไว้ที่รถเอ็มจีสีแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก-7221 ภูเก็ต คันที่ผู้เสียชีวิตขับมา ก่อนถูกยิงเสียชีวิต
มีรายงานว่าชุดคลี่คลายคดี มีการนำชายชาวต่างชาติต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นคนนำอุปกรณ์จีพีเอส หรืออุปกรณ์ติดตามตำแหน่งรถ มาแอบติดไว้ที่รถยนต์เอ็มจีสีแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก7221 ภูเก็ต ของผู้ตาย มาสอบปากคำด้วยเช่นกัน หลังจาก พฐ.จว.ภูเก็ต ตรวจพบอุปกรณ์จีพีเอส ติดซ่อนอยู่ใต้ท้องรถผู้ตาย จึงมีการตรวจสอบยี่ห้อดังกล่าว จนเป็นที่มาของการแกะรอยไปยังชาวต่างชาติที่นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาติดตั้งไว้
มีรายงานว่าในวันนี้ 10 ก.พ.นี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จะเดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวอีกครั้ง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนเจอรถต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ที่ริมหาดในยาง ตำบลสาคู อำเภอถลาง ซึ่งคาดว่าเป็นยานพาหนะของ 2 มือปืนที่ใช้ในการหลบหนี
วันเดียวกัน พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบช.ทท.ในฐานโฆษก บช.ทท.แถลงต่อสื่อมวลชนกรณีดังกล่าว ว่า พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. ได้สั่งกำชับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ให้ประสานความร่วมมือการปฏิบัติการกับตำรวจจังหวัดภูเก็ตและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รวมไปถึงกองการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการจับกุมคนร้ายรายนี้โดยเร็ว และยังสั่งให้ฝ่ายต่างประเทศของตำรวจท่องเที่ยวประสานข้อมูลกับนายตำรวจประสานงานระหว่างประเทศของแคนาดาและอินเดียอย่างต่อเนื่องทุกระยะด้วย เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติเกี่ยวข้องกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหลายกลุ่ม
พล.ต.ท.สุคุณ ยืนยันหนักแน่นด้วยว่า นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะมาจากต่างประเทศหรือเป็นคนไทย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในประเทศจะต้องมีความปลอดภัยสูงสุด และอยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Tourist Police i-lert-u ซึ่งจะทำให้ติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุกับตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร เพราะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของตำรวจท่องเที่ยวที่มีสายด่วน 1155 นั้น สามารถให้บริการ 5 ภาษาต่างประเทศหลัก ได้แก่ อังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี อย่างทันที
ผู้บัญชาการท่องเที่ยวยืนยันว่า “ตำรวจท่องเที่ยวคือเพื่อนแท้คนแรกสำหรับการเดินทางของท่านเสมอ” นึกถึงเราและต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรหาเราได้ที่ 1155
ที่มา: Phuketandamannews
จากกรณี นายจิมมี่ ซิง ซานดู ชาวต่างชาติเชื้อสายอินเดีย ซึ่งถือสัญชาติแคนนาดา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าวิลล่าริมหาด โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ 1 ราย ที่เป็นคนลงมือแอบติดจีพีเอสไว้ที่รถเอ็มจีสีแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก-7221 ภูเก็ต คันที่ผู้เสียชีวิตขับมา ก่อนถูกยิงเสียชีวิต
มีรายงานว่าชุดคลี่คลายคดี มีการนำชายชาวต่างชาติต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นคนนำอุปกรณ์จีพีเอส หรืออุปกรณ์ติดตามตำแหน่งรถ มาแอบติดไว้ที่รถยนต์เอ็มจีสีแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก7221 ภูเก็ต ของผู้ตาย มาสอบปากคำด้วยเช่นกัน หลังจาก พฐ.จว.ภูเก็ต ตรวจพบอุปกรณ์จีพีเอส ติดซ่อนอยู่ใต้ท้องรถผู้ตาย จึงมีการตรวจสอบยี่ห้อดังกล่าว จนเป็นที่มาของการแกะรอยไปยังชาวต่างชาติที่นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาติดตั้งไว้
มีรายงานว่าในวันนี้ 10 ก.พ.นี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จะเดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวอีกครั้ง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนเจอรถต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ที่ริมหาดในยาง ตำบลสาคู อำเภอถลาง ซึ่งคาดว่าเป็นยานพาหนะของ 2 มือปืนที่ใช้ในการหลบหนี
วันเดียวกัน พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบช.ทท.ในฐานโฆษก บช.ทท.แถลงต่อสื่อมวลชนกรณีดังกล่าว ว่า พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. ได้สั่งกำชับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ให้ประสานความร่วมมือการปฏิบัติการกับตำรวจจังหวัดภูเก็ตและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รวมไปถึงกองการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการจับกุมคนร้ายรายนี้โดยเร็ว และยังสั่งให้ฝ่ายต่างประเทศของตำรวจท่องเที่ยวประสานข้อมูลกับนายตำรวจประสานงานระหว่างประเทศของแคนาดาและอินเดียอย่างต่อเนื่องทุกระยะด้วย เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติเกี่ยวข้องกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหลายกลุ่ม
พล.ต.ท.สุคุณ ยืนยันหนักแน่นด้วยว่า นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะมาจากต่างประเทศหรือเป็นคนไทย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในประเทศจะต้องมีความปลอดภัยสูงสุด และอยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Tourist Police i-lert-u ซึ่งจะทำให้ติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุกับตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร เพราะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของตำรวจท่องเที่ยวที่มีสายด่วน 1155 นั้น สามารถให้บริการ 5 ภาษาต่างประเทศหลัก ได้แก่ อังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี อย่างทันที
ผู้บัญชาการท่องเที่ยวยืนยันว่า “ตำรวจท่องเที่ยวคือเพื่อนแท้คนแรกสำหรับการเดินทางของท่านเสมอ” นึกถึงเราและต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรหาเราได้ที่ 1155
ที่มา: Phuketandamannews