ไข้ ไอ เจ็บคอ: วิธีแยกแยะและรับมือกับหวัดจากไวรัสและแบคทีเรีย

แชร์ Share Facebook Share Line
เมื่อถึงหน้าฝนหรือช่วงเปลี่ยนฤดู อากาศเย็นสบาย หลายคนมักป่วยเป็นหวัด มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า อาการเหล่านี้เกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรียกันแน่? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างและรู้วิธีรับมือกับหวัดได้อย่างถูกต้อง

การแยกแยะหวัดจากไวรัสและแบคทีเรีย

หวัดจากไวรัส

  • ไข้: มักมีไข้ต่ำๆ อุณหภูมิไม่เกิน 38°C
  • ไอ: ไอแห้งหรือมีเสมหะใสน้อยๆ
  • เจ็บคอ: เจ็บคอเล็กน้อย กลืนไม่ลำบาก
  • น้ำมูก: น้ำมูกใส ไหลเป็นน้ำ
  • อาการอื่นๆ: ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย

หวัดจากแบคทีเรีย

  • ไข้: มักเป็นไข้สูง อุณหภูมิ 38°C ขึ้นไป
  • ไอ: ไอมีเสมหะสีเขียวข้นหรือเหลือง
  • เจ็บคอ: เจ็บคอมาก กลืนลำบาก อาจมีหนองหรือรอยแดงในคอ
  • น้ำมูก: น้ำมูกข้น เหนียว หรือเป็นสีเขียว
  • อาการอื่นๆ: ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหู หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน

การรักษา

หวัดจากไวรัส

  • ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ
  • รักษาตามอาการ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ
  • อาจใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ
  • อาการมักดีขึ้นเองใน 7-10 วัน

หวัดจากแบคทีเรีย

  • จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
  • ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาที่เหมาะสม
  • อาการมักดีขึ้นภายใน 1-2 วันหลังเริ่มยาปฏิชีวนะ

การป้องกัน

การรักษาสุขอนามัย

  • ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะหรือใกล้ชิดผู้ป่วย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
  • ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู โทรศัพท์มือถือ

การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รักษาร่างกายให้อบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

สิ่งสำคัญที่ควรทราบ:

  1. การแยกแยะเบื้องต้นจากอาการอาจไม่ชัดเจนเสมอไป หากมีอาการรุนแรงหรือสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
  2. การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นอาจนำไปสู่ปัญหาเชื้อดื้อยาได้
  3. หวัดเป็นโรคที่พบบ่อยและรักษาหายได้ แต่หากละเลยการรักษาหรือดูแลสุขภาพไม่ดี อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้

สรุป: การรู้จักสังเกตอาการและแยกแยะระหว่างหวัดที่เกิดจากไวรัสและแบคทีเรียเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการรักษาและการจัดการโรคจะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การป้องกันตัวเองด้วยการรักษาสุขอนามัยที่ดีและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย หากมีข้อสงสัยหรืออาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line