เทคนิคหางานสำหรับคนอายุ 30+ กับการเปลี่ยนอาชีพในวัยผู้ใหญ่
เมื่อเข้าสู่วัย 30+ หลายคนอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการหางานใหม่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนอาชีพ การแข่งขันในตลาดงานที่มีอายุเป็นตัวกำหนดทำให้ผู้ที่อายุมากกว่า 30 ปีต้องใช้ความพยายามและแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริง บทความนี้จะเสนอเทคนิคและแนวคิดในการหางานและเปลี่ยนอาชีพสำหรับคนวัย 30+ เพื่อให้สามารถเติบโตในสายงานที่ต้องการได้อย่างมั่นใจ
ทำไมบางบริษัทถึงเน้นรับคนที่อายุน้อยกว่า 30 ปี?
บางบริษัทเน้นรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี เนื่องจากตำแหน่งงานที่เปิดรับไม่ได้ต้องการประสบการณ์มาก เช่น ตำแหน่ง Junior ซึ่งเหมาะกับเด็กจบใหม่ที่มีไฟในการทำงานสูงกว่าและพร้อมรับเงินเดือนที่ต่ำกว่า นอกจากนี้บางบริษัทมีโครงสร้างเงินเดือนที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการเงินเดือนสูง
เทคนิคการหางานสำหรับคนอายุ 30+
1. คุยกับตัวเองก่อน
- ก่อนจะหางานใหม่ควรถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องการเปลี่ยนงานหรือออกจากที่ทำงานเดิม วิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของการทำงานปัจจุบัน และพิจารณาว่าลักษณะงานที่ต้องการจริงๆ คืออะไร
2. การเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องแปลก
- การหางานใหม่ในวัย 30+ ไม่ใช่เรื่องแปลก สิ่งสำคัญคือการปรับวิธีคิดและสร้างความมั่นใจในตัวเอง การขาดความมั่นใจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่ได้งานใหม่ ไม่ใช่เรื่องของอายุ
3. ควรได้งานใหม่ก่อน แล้วค่อยลาออกจากที่เก่า
- ควรอดทนทำงานในที่เดิมไปก่อนจนกว่าจะได้งานใหม่เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงิน
4. พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
- โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ เช่น การเรียนคอร์สออนไลน์ที่สามารถเพิ่มพูนทักษะและแนบใบประกาศรับรองลงในเรซูเม่
5. เลือกตำแหน่งและระดับการทำงานที่เหมาะกับความสามารถ
- ควรเลือกตำแหน่งที่สูงกว่า Junior เช่น Senior หัวหน้างาน หรือผู้จัดการ เพื่อใช้ประสบการณ์ที่มีและเพิ่มโอกาสในการได้งาน
6. ประสบการณ์คือจุดขาย
- ใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการบริหารจัดการงานเป็นจุดขายในการสัมภาษณ์งาน
7. ควรแสดงออกถึงความน่าเชื่อถือ
- ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องพบปะกับลูกค้า ความมีวุฒิภาวะและ EQ จะช่วยให้คุณโดดเด่น
8. แสดงให้เห็นว่า Generation Gap ไม่ใช่ปัญหา
- แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างไม่มีปัญหา
เปลี่ยนอาชีพในวัย 30: ช้าไปไหม?
การเปลี่ยนอาชีพในวัย 30 ไม่ใช่เรื่องแปลก มีผลสำรวจพบว่าคนวัย 25-33 ปีมักเจอวิกฤตก่อนวัยกลางคน เพราะยังหาอาชีพที่ตรงกับความชอบไม่เจอ ความต้องการเปลี่ยนอาชีพของแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอาจรู้สึกไม่เติมเต็มในงานปัจจุบัน ต้องการงานที่มีอิสระมากขึ้น หรือเจอความฝันที่แท้จริงแล้ว
คำถามที่ควรถามตัวเองก่อนตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ
- อาชีพนั้นมีข้อจำกัดเรื่องอายุหรือคุณสมบัติเฉพาะหรือไม่?
- พร้อมหรือไม่ถ้าต้องเริ่มต้นใหม่?
- มีเงินสำรองเพียงพอหรือไม่?
- รับได้หรือไม่ถ้ามีหัวหน้าที่เด็กกว่า?
- ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง?
- ตอนนี้เรามี transferable skills อะไรบ้าง?
ใช้ ‘อิคิไก’ ช่วยสำรวจตัวเอง
‘อิคิไก’ เป็นหลักปรัชญาของญี่ปุ่นที่นิยมใช้สำหรับค้นหาความหมายของชีวิตว่าด้วยสมดุลระหว่าง 4 ด้าน ได้แก่ ‘สิ่งที่เรารัก’ ‘สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลก’ ‘สิ่งที่สร้างรายได้’ และ ‘สิ่งที่เราทำได้ดี’ หากเรายังไม่แน่ใจว่าอาชีพอะไรที่มีความหมายต่อเราอย่างแท้จริง ให้เราลองเขียนคำตอบลงในช่องเหล่านี้ แล้วลองดูว่าอาชีพอะไรที่ตอบโจทย์ความเป็นตัวเราได้ครบ 4 ด้านมากที่สุด
หาโอกาสทดลองก่อนทำจริง
เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว การหาโอกาสทดลองทำอาชีพที่คิดว่าใช่ในขนาดเล็กๆ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น เช่น ลองเสนอตัวเป็นเทรนเนอร์ให้เพื่อนแบบฟรีๆ ถ้าชอบก็มุ่งหน้าต่อได้เลย
ไม่มีคำว่าสายเกินไป
มีคนดังมากมายที่พิสูจน์แล้วว่าการเปลี่ยนอาชีพหลังอายุ 30 เป็นไปได้จริง เช่น Colonel Sanders, Jeff Bezos, Vera Wang, Ronald Reagan และ The Rock สิ่งสำคัญคือความเชื่อมั่นในตัวเองและความตั้งใจ