เทคนิคการขอขึ้นเงินเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ - วิธีการและเคล็ดลับที่ได้ผล

แชร์ Share Facebook Share Line

ใกล้จะสิ้นปีแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทบทวนว่าปีนี้คุณประสบความสำเร็จในการทำงานและอาชีพมากน้อยแค่ไหน คุณได้รับเงินเดือนคุ้มค่ากับที่ทุ่มเทไปหรือไม่ หากคำตอบคือ “ไม่” ถึงเวลาแล้วที่คุณควรขอขึ้นเงินเดือน

การขอขึ้นเงินเดือนเป็นเรื่องท้าทายและต้องการความกล้า ความมั่นใจ และการเตรียมตัวที่ดี จากการสำรวจของ Fast Company พบว่า 49% ของผู้สมัครงานไม่เคยลองเจรจาขอขึ้นเงินเดือนตั้งแต่ได้รับการเสนอเงินเดือนครั้งแรก เนื่องจากความกลัวและไม่มั่นใจในการเจรจา ดังนั้น PHUKET108 ได้รวบรวมวิธีการที่จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและมีอำนาจในการต่อรองเพื่อขอขึ้นเงินเดือน ดังนี้

1. ไม่กล้าขอ ก็ไม่ได้:

หากคุณคิดว่าการทำงานหนักจะทำให้เจ้านายเห็นและให้เงินเดือนเพิ่มเองนั้นไม่เป็นจริง การขอขึ้นเงินเดือนต้องเริ่มจากความกล้าที่จะถาม เพราะหากคุณไม่กล้าขอ คุณก็จะไม่ได้ ดังนั้นการเริ่มพูดและต่อรองขอขึ้นเงินเดือนจึงเป็นบันไดก้าวแรกที่จะทำให้คุณได้รับเงินเดือนที่คุ้มค่าในอนาคต

การเข้าไปขอขึ้นเงินเดือนจากเจ้านายอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่สิ่งสำคัญคือความกล้าที่จะเริ่มต้น มันอาจเป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนใจและเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธ แต่การถูกปฏิเสธเป็นเพียงแค่กระบวนการหนึ่งที่ผ่านไปแล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป การแสดงความกล้าและความมั่นใจในตัวเองจะทำให้เจ้านายเห็นคุณในมุมใหม่ และอาจทำให้คุณโดดเด่นขึ้นในสายตาของเขา

2. ไม่สำคัญว่าตอนนี้คุณได้เงินเดือนอยู่เท่าไหร่:

การขอขึ้นเงินเดือนควรพิจารณาจากมูลค่าของคุณในตลาดงาน ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และฐานเฉลี่ยเงินเดือนของเพื่อนร่วมงานของคุณ

การที่คุณจะขอขึ้นเงินเดือน ไม่ควรอ้างอิงจากฐานเงินเดือนที่คุณได้รับอยู่เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาถึงมูลค่าของตัวคุณในตลาดงาน ประเมินว่าทักษะและประสบการณ์ของคุณมีค่าแค่ไหน รวมถึงดูว่าฐานเงินเดือนของเพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันเป็นอย่างไร การรู้ว่าตลาดงานในปัจจุบันเป็นอย่างไร จะช่วยให้คุณสามารถตั้งตัวเลขเงินเดือนที่เหมาะสมได้

3. รู้ว่าคุณทุ่มเททำอะไรให้บริษัทบ้าง:

การเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับผลงาน ทักษะ และประสบการณ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ การรู้ว่าคุณทำอะไรให้บริษัทบ้างจะช่วยให้คุณสามารถนำเสนอคุณค่าและความสำเร็จของคุณในการเจรจา

คุณควรรู้ว่าผลงานอะไรที่คุณทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถนำเสนอคุณค่าและความสำเร็จของคุณได้ชัดเจน นอกจากนี้ การโฆษณาความสำเร็จของตัวคุณเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ฝึกฝนทักษะในการแสดงออกถึงผลงานของคุณให้เจ้านายเห็นว่าคุณทุ่มเทแค่ไหน และพยายามหาข้อมูลว่าตอนนี้เทรนด์การขอขึ้นเงินเดือนเป็นอย่างไร ควรคำนวณตัวเลขเงินเดือนที่ต้องการจากข้อมูลที่ได้จากการวิจัย

4. มีแผนสำรอง ถ้าขอขึ้นเงินเดือนไม่สำเร็จ:

คุณควรมีตัวเลขเงินเดือนที่ต้องการหลายตัวในใจ เผื่อเวลาที่เจ้านายปฏิเสธตัวเลขแรก นอกจากนี้ยังสามารถยกข้อเสนอที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น วันลาพักร้อนที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

การมีแผนสำรองเป็นสิ่งสำคัญในการเจรจาขอขึ้นเงินเดือน คุณควรมีตัวเลขเงินเดือนหลายตัวในใจ เผื่อว่าเจ้านายปฏิเสธตัวเลขที่คุณเสนอไปในครั้งแรก นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาข้อเสนอที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การทำงานที่ยืดหยุ่น วันลาพักร้อนที่เพิ่มขึ้น หรือการได้รับงบเพิ่มสำหรับการไปสัมมนาหรืออบรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้โดยไม่ต้องเป็นตัวเงิน

5. พยายามวางเฉยและทำตัวเป็นกลางตลอดการเจรจาต่อรอง:

การควบคุมอารมณ์และวางเฉยในการเจรจาจะช่วยให้คุณสงบและมีสมาธิ ควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น

หนึ่งในกฎพื้นฐานของการเจรจาคือคุณต้องมีหน้าวางเฉยที่ทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ การวางเฉยและแสดงความรู้สึกเป็นกลางจะช่วยให้คุณสงบและมีสมาธิตลอดกระบวนการ ถึงแม้จะฟังดูพูดง่ายกว่าทำก็ตาม การที่คุณสามารถควบคุมอารมณ์และแยกอารมณ์ความรู้สึกออกจากภาวะที่เป็นอยู่จะทำให้คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น

ขั้นตอนการเจรจาขอขึ้นเงินเดือน

ก่อนที่จะเดินเข้าไปขอขึ้นเงินเดือน คุณควรเตรียมตัวให้ดีก่อน โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้:

1. เข้าไปหาหัวหน้าเมื่อไหร่ดี?:

  • เมื่อเงินเดือนไม่น่าพอใจ: คุณควรพิจารณาเงินเดือนปัจจุบันว่ามันเหมาะสมกับวุฒิการศึกษา ตำแหน่ง ความสามารถ และประสบการณ์ของคุณหรือไม่
  • เมื่อทำงานมานานและไม่มีการขยับขึ้น: หากคุณทำงานมาเกิน 1 ปีแล้วแต่เงินเดือนยังคงที่ ควรเป็นสัญญาณว่าคุณควรพิจารณาขอขึ้นเงินเดือน
  • เมื่อมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ: หากผลงานของคุณได้รับคำชมจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน ถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะขอขึ้นเงินเดือน
  • เมื่อผ่านโปรฯ หรือเลื่อนตำแหน่ง: เมื่อผ่านโปรฯ หรือเลื่อนตำแหน่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการขอขึ้นเงินเดือน

2. ถึงเวลาเจรจากับหัวหน้า:

  • ประเมินตนเองจากปัจจัยต่าง ๆ: พิจารณาผลงานและเหตุผลที่ทำให้คุณสมควรได้รับเงินเดือนเพิ่ม
  • ดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม: เลือกช่วงเวลาที่หัวหน้าอารมณ์ดี ไม่ตึงเครียด และสถานการณ์ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในช่วงที่ดี
  • แต่งตัวดีและวางตัวเหมาะสม: การแต่งตัวและวางตัวที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในการเจรจา
  • สุภาพและพูดจาค่อยเป็นค่อยไป: การพูดจาอย่างสุภาพและมีเหตุผลจะช่วยให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ไม่เจาะจงตัวเลขที่ขอเพิ่ม: อย่าเจาะจงตัวเลขเงินเดือนที่ต้องการ แต่ควรบอกว่าเพิ่มตามผลงานหรือเป็นไปตามความเห็นของหัวหน้าและฝ่าย HR
  • อย่าบังคับหรือก้าวร้าวกับหัวหน้า: การแสดงความก้าวร้าวจะทำให้การเจรจาเป็นไปในทิศทางลบ

3. หลังจากการเจรจาต่อรอง:

  • หากคำตอบเป็น "YES": ถามรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างสุภาพและแสดงความทุ่มเทต่อไป
  • หากคำตอบเป็น "NO": ยอมรับการตัดสินใจของหัวหน้าและพัฒนาตนเองต่อไป

เทคนิคการเรียกเงินเดือนที่สมเหตุสมผล

การเรียกเงินเดือนที่สมเหตุสมผลควรพิจารณาจากกลุ่มคนทำงานดังนี้:

กลุ่มนักศึกษาจบใหม่:

  • เรียกเงินเดือนตามโครงสร้างเงินเดือนในตลาดงาน: ค้นหาข้อมูลเรทเงินเดือนของนักศึกษาจบใหม่ในตำแหน่งที่คุณสนใจ
  • ประเมินจากข้อมูลของบริษัทและผลประกอบการ: ศึกษาข้อมูลของบริษัทว่ามีขนาดและผลประกอบการเป็นอย่างไร
  • หากต้องการเรียกเงินเพิ่ม ควรมีทักษะที่โดดเด่นและมีประโยชน์ต่อการทำงาน: ทักษะภาษาที่สามหรือความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เป็นที่ต้องการ

กลุ่มมีประสบการณ์ที่มีงานทำอยู่ แต่อยากเปลี่ยนงาน:

  • เรียกเงินเดือนเพิ่มตามเรทในตลาด ไม่ควรเกินช่วงเงินเดือนในประกาศงาน: ประเมินตัวเลขเงินเดือนที่เหมาะสมจากตำแหน่งและประสบการณ์ที่มี
  • คนที่ไม่เคยย้ายงานหรือทำตำแหน่งที่ตลาดต้องการ อาจเรียกได้สูงกว่าปกติ: หากคุณทำงานในตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมากในตลาด คุณอาจเรียกเงินเดือนได้สูงกว่าปกติ

กลุ่มมีประสบการณ์ที่เพิ่งเปลี่ยนงานมาไม่นาน:

  • ควรขอเพิ่มไม่เกิน 15% หากทำงานได้ประมาณหนึ่งปี: ประเมินว่าการขอเงินเดือนเพิ่มควรอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่คุณทำงาน

กลุ่มมีประสบการณ์ แต่กำลังว่างงานอยู่:

  • ยิ่งว่างงานนานเท่าไหร่ ยิ่งมีผลต่อเงินเดือนมากเท่านั้น: การว่างงานนานจะทำให้โอกาสในการขอเงินเดือนเพิ่มลดลง
  • ว่างงานไม่เกินหนึ่งปี สามารถขอเพิ่มได้ 5-10%: หากคุณว่างงานไม่เกินหนึ่งปี โอกาสในการขอเงินเดือนเพิ่มยังคงมีอยู่
  • ว่างงานมากกว่า 1 ปี อาจจะขอเพิ่มได้ยาก: การว่างงานนานกว่า 1 ปีอาจทำให้การขอเงินเดือนเพิ่มเป็นไปได้ยากขึ้น

กลุ่มมีประสบการณ์ แต่ย้ายสายงาน:

  • การขอเงินเดือนเพิ่มยาก แต่ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ว่าต่อยอดได้ไหม: ประเมินว่าทักษะและประสบการณ์ของคุณสามารถนำมาใช้ในสายงานใหม่ได้อย่างไร
  • การเปลี่ยนสายงานอาจทำให้เงินเดือนลดลง แต่ควรพิจารณาความสุขและโอกาสเติบโตในอนาคต: คิดถึงความสุขและโอกาสในการเติบโตในอนาคตที่คุณจะได้รับจากการเปลี่ยนสายงาน

การเรียกเงินเดือนที่สมเหตุสมผลต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สวัสดิการ โบนัส เวลา และสิ่งที่จะได้จากการทำงานที่นั่น สิ่งสำคัญคือความสุขและความพอใจในงานที่ทำ

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line