อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีกรดไหลย้อน

แชร์ Share Facebook Share Line

กรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะอาหารไหลย้อน (GERD) เป็นภาวะที่กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นสู่หลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ อาเจียน เรอเปรี้ยว และท้องอืด โดยอาหารบางประเภทอาจกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนมากขึ้น ผู้ที่มีอาการนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้

  1. อาหารรสจัด เช่น อาหารไทยรสเผ็ด อาหารจีนผัดเผ็ด หม่าล่า พิซซ่า และแฮมเบอร์เกอร์ เนื่องจากรสเผ็ด เปรี้ยว และเค็มจัดจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น
  2. อาหารทอด เช่น ไก่ทอด ปลาทอด เฟรนช์ฟรายส์ เกี๊ยวทอด และลูกชิ้นทอด เนื่องจากอาหารทอดใช้เวลาย่อยนานและกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  3. อาหารมัน เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เบคอน อาหารฟาสต์ฟู้ด และขนมขบเคี้ยว เนื่องจากไขมันชะลอการย่อยอาหารและกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  4. อาหารหมักดอง เช่น ผักดอง กิมจิ ปลาร้า และน้ำส้มสายชู เนื่องจากกระตุ้นให้มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น
  5. ช็อกโกแลต ทั้งดาร์กช็อกโกแลตและช็อกโกแลตนม รวมถึงขนมหวานที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต เนื่องจากมีคาเฟอีนและไขมันซึ่งกระตุ้นการเกิดกรดไหลย้อน
  6. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากคาเฟอีนกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น
  7. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ และสุรา เนื่องจากระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหารและกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  8. น้ำมันมะกอก เนื่องจากย่อยยากและกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  9. ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว และมะเขือเทศ เนื่องจากกรดในผลไม้กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  10. หอมหัวใหญ่ เนื่องจากกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน

นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้แล้ว ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนควรปฏิบัติดังนี้

  • ทานอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยครั้ง แทนมื้อใหญ่
  • ไม่ควรนอนทันทีหลังทานอาหาร ควรรอประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  • นอนในท่าหงาย
  • ลดน้ำหนักตัวหากมีน้ำหนักเกิน
  • งดสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากยังมีอาการรุนแรงควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม การควบคุมอาหารและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะช่วยลดอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากกรดไหลย้อนได้

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line