ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเพื่อรับเงินทดแทนเมื่อลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง
การถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงานเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการประกันสังคม ซึ่งรวมถึงเงินทดแทนระหว่างที่ยังไม่ได้งานใหม่ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเพื่อรับเงินทดแทนเมื่อลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง
1. ตรวจสอบสิทธิ์การรับเงินทดแทน
ก่อนที่จะขึ้นทะเบียนเพื่อรับเงินทดแทน ผู้ประกันตนต้องตรวจสอบสิทธิ์ว่าตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ โดยมีเงื่อนไขดังนี้:
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
- ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ในระยะเวลา 15 เดือนก่อนว่างงาน
- ต้องไม่มีการเลิกจ้างเพราะการกระทำผิดตามกฎหมายหรือระเบียบของบริษัท
2. ลงทะเบียนในระบบของประกันสังคม
หลังจากตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงทะเบียนในระบบของประกันสังคม ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (www.sso.go.th)
- เลือกเมนู "บริการผู้ประกันตน" แล้วเลือก "ลงทะเบียนว่างงาน"
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและรายละเอียดการว่างงานให้ครบถ้วน
3. รายงานตัวและยื่นเอกสารที่จำเป็น
เพื่อรับเงินทดแทน ผู้ประกันตนต้องรายงานตัวและยื่นเอกสารที่จำเป็นตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ได้แก่:
- รายงานตัวผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน https://empui.doe.go.th ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยใช้เลขบัตรประชาชน
- นำแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สปส. 2-01/7 พร้อมเอกสารประกอบการยื่นแบบคำขอ ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของคุณ ไปส่ง ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ / จังหวัด / สาขาทุกแห่งทั่วประเทศที่คุณสะดวก
- รายงานตัวผ่านระบบเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อรับเงินทดแทนในเดือนถัดไป
4. สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
ผู้ประกันตนที่ว่างงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
- กรณีว่างงานเพราะถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ เช่น หากคุณมีเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 5,000 บาท ในระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน
- กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน จะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ เช่น หากคุณมีเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 3,000 บาท ในระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
5. การคุ้มครองต่อเนื่องตามมาตรา 39
หากคุณต้องการใช้สิทธิประกันสังคมต่อไป คุณสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 โดยยื่นแบบคำขอ (สปส.1-20) ด้วยตนเองภายในระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน ซึ่งคุณจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายประกันสังคมใน 6 กรณี ได้แก่ ประสบภัยอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต, คลอดบุตร, สงเคราะห์บุตร, และชราภาพ โดยส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ซึ่งสามารถส่งเงินได้หลายช่องทาง
การขึ้นทะเบียนเพื่อรับเงินทดแทนเมื่อลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้างเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรับสิทธิประโยชน์ที่คุณควรได้รับ หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้องและครบถ้วน คุณจะได้รับการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่หางานใหม่ได้อย่างสมบูรณ์