"Work-Life Balance" กุญแจสู่ความสมดุลและการหลีกเลี่ยงภาวะเบิร์นเอ้าท์

แชร์ Share Facebook Share Line

ในยุคปัจจุบันที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน การทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่หลายคนยอมรับและปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม การทุ่มเทเวลาและพลังงานทั้งหมดไปกับงานโดยขาดความสมดุลจากชีวิตส่วนตัว อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงภาวะ "เบิร์นเอ้าท์" หรือภาวะหมดไฟในที่สุด

ดังนั้น การรักษา "Work-Life Balance" หรือความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากผู้ที่สามารถบรรลุความสมดุลนี้ได้มักจะมีความสุข สุขภาพดี สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง

สำหรับพนักงาน มีกุญแจสำคัญในการบรรลุ Work-Life Balance ดังนี้

  • กำหนดขอบเขตระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวให้ชัดเจน พยายามไม่ตรวจเช็กอีเมลหรือข้อความงานหลังเลิกงานหรือในวันหยุด และกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอน
  • รู้จักปฏิเสธงานหรือกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเวลาสำหรับสิ่งที่สำคัญในชีวิตมากขึ้น
  • ใช้เวลาว่างให้คุ้มค่าด้วยการพักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง
  • ดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และจัดการกับความเครียด
  • สื่อสารกับนายจ้าง หัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว เพื่อสร้างความเข้าใจและบรรยากาศการทำงานที่ดี
  • ไม่ละอายหรือกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือสมาชิกในครอบครัว หากรู้สึกหนักใจหรือเผชิญปัญหาในการจัดการงาน

นอกจากนี้ องค์กรหรือนายจ้างก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้พนักงานบรรลุ Work-Life Balance โดย

  • จัดทำนโยบายที่เอื้อต่อ Work-Life Balance เช่น นโยบายการลาหยุดที่ยืดหยุ่น นโยบายการทำงานจากที่บ้าน นโยบายการเลิกงานตรงเวลา เป็นต้น
  • ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ดี โดยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย เคารพในเวลาพักผ่อนของพนักงาน และส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี
  • ให้รางวัลหรือยกย่องชมเชยพนักงานที่บรรลุ Work-Life Balance และสามารถบริหารจัดการเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ให้ความรู้ คำแนะนำ และจัดสัมมนาเกี่ยวกับเทคนิคการบริหารเวลาและการบรรลุ Work-Life Balance อย่างสม่ำเสมอ

การมี Work-Life Balance นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้และทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ เพราะมันไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีความสุข สุขภาพดี แต่ยังส่งผลให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรในที่สุด ดังนั้น ทั้งพนักงานและองค์กรจึงควรร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมี Work-Life Balance เพื่อป้องกันภาวะเบิร์นเอ้าท์และส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line