New Collar Jobs คืออะไร? การปรับตัวของตลาดงานและทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล
ความหมายของ New Collar Jobs
ในช่วงเวลาที่การทำงานเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการพัฒนาเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากขึ้น แนวคิดของงานแบบ "New Collar Jobs" ได้เกิดขึ้น คำนี้ถูกบัญญัติขึ้นโดย Ginni Rometty อดีต CEO ของ IBM เพื่ออธิบายถึงงานที่ไม่ได้พึ่งพาวุฒิการศึกษาระดับปริญญา แต่เน้นทักษะและความสามารถเฉพาะด้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดงานในยุคดิจิทัล
การแบ่งประเภทของงาน
ในอดีต งานมักถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ:
- Blue Collar: งานที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น งานในโรงงาน การก่อสร้าง หรือการผลิต ซึ่งผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มนี้มักสวมเครื่องแบบสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน
- White Collar: งานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการและใช้ทักษะความรู้ เช่น งานในสำนักงาน การเงิน การตลาด และการจัดการ โดยผู้ปฏิบัติงานมักสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว
อย่างไรก็ตาม New Collar Jobs คือการผสมผสานระหว่างทักษะทางเทคนิคของ Blue Collar และทักษะความรู้ของ White Collar โดยเน้นที่การฝึกฝนและพัฒนาทักษะเฉพาะด้านผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเรียนออนไลน์ การฝึกงาน หรือการอบรมระยะสั้น
ที่มาของ New Collar Jobs
การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานและเทคโนโลยี เช่น IT Disruption การพัฒนาของ AI และการระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการปรับตัวในรูปแบบการทำงาน การทำงานทางไกลกลายเป็นเรื่องปกติ และทักษะทางดิจิทัลกลายเป็นสิ่งจำเป็น นายจ้างหลายรายเริ่มให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพนักงานที่มีทักษะเฉพาะตัวมากขึ้นแทนการเน้นวุฒิการศึกษา
ความสำคัญของ New Collar Jobs
New Collar Jobs ตอบโจทย์ความต้องการของนายจ้างในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้:
- ทักษะที่เฉพาะเจาะจง: นายจ้างต้องการพนักงานที่มีทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที เช่น การเขียนโปรแกรม การจัดการข้อมูล การตลาดดิจิทัล เป็นต้น
- ความยืดหยุ่น: พนักงาน New Collar สามารถปรับตัวได้ดีและมีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว
- ประหยัดเวลาและทรัพยากร: การฝึกอบรมหรือการเรียนรู้ออนไลน์ใช้เวลาน้อยกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัย และมักมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
ตัวอย่างของ New Collar Jobs
หลาย ๆ งานในปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่ม New Collar Jobs โดยไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาแต่มีทักษะเฉพาะทางที่สำคัญ ได้แก่:
- Pharmacy Technician: ช่วยเภสัชกรในการจัดการใบสั่งยา ดูแลประวัติผู้ป่วยและคลังยา
- Diagnostic Medical Sonographer: ทำงานร่วมกับแพทย์ในการสแกนภาพอัลตราซาวน์และเตรียมอุปกรณ์
- Cloud Administrator: ดูแลและจัดการระบบคลาวด์ คอร์สอบรมมีทั้งจาก Google และ Microsoft
- Cybersecurity Architect: ออกแบบและจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์
- Data Scientist: วิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึก
- Digital Marketer: วางแผนและดำเนินการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล
- IT Support Specialist: ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการสนับสนุนไอที
- Software Developer: พัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน
- Web Developer: สร้างและดูแลเว็บไซต์
วิธีการเตรียมตัวสำหรับ New Collar Jobs
การเตรียมตัวสำหรับ New Collar Jobs ต้องการการพัฒนาทักษะเฉพาะด้านอย่างต่อเนื่อง ดังนี้:
- การเรียนรู้ผ่านออนไลน์: คอร์สออนไลน์จากแพลตฟอร์มเช่น Coursera, Udemy, และ LinkedIn Learning เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเรียนรู้ทักษะใหม่
- การฝึกงานและการอบรม: เข้าร่วมการฝึกงานหรืออบรมเฉพาะด้านเพื่อเพิ่มประสบการณ์และความชำนาญ
- การสร้างผลงาน: สร้างผลงานหรือโครงการส่วนตัวเพื่อแสดงทักษะและความสามารถ
- การพัฒนาเครือข่าย: เชื่อมต่อกับผู้คนในวงการและเข้าร่วมกลุ่มชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่สนใจ
บทบาทของนายจ้างในการสนับสนุน New Collar Jobs
นายจ้างควรปรับตัวเพื่อสนับสนุนการเติบโตของ New Collar Jobs โดย:
- การออกแบบการฝึกอบรม: สร้างโปรแกรมฝึกอบรมที่เน้นทักษะเฉพาะทาง
- การวัดผลทักษะ: ใช้แบบทดสอบหรือการสัมภาษณ์ที่เน้นการวัดผลทักษะและความสามารถแทนการดูวุฒิการศึกษา
- การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต: สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
สรุป
New Collar Jobs เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดงานปัจจุบัน การเน้นทักษะเฉพาะทางและการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นเป็นสิ่งที่ทำให้งานประเภทนี้เป็นที่ต้องการ ผู้สมัครงานควรพัฒนาทักษะของตนเองให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ในขณะที่นายจ้างควรปรับนโยบายการรับสมัครและการฝึกอบรมเพื่อรองรับแนวโน้มนี้