5 สัญญาณอันตรายไข้เลือดออกในเด็กที่ต้องระวัง

แชร์ Share Facebook Share Line

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีผ่านการถูกยุงลายกัด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้น การสังเกตสัญญาณอันตรายของโรค และรีบพาบุตรหลานไปพบแพทย์ จึงเป็นเรื่องสำคัญ

สัญญาณอันตราย 5 ประการของไข้เลือดออกในเด็กที่ผู้ปกครองต้องระวังให้มาก มีดังนี้

  1. ไข้สูงลอย เด็กมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส นานติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 วัน และไม่ตอบสนองต่อการให้ยาลดไข้พาราเซตามอล
  2. อาเจียนรุนแรง เด็กมีอาการอาเจียนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอาเจียนแบบพุ่งพรวด หรืออาเจียนเป็นสีดำคล้ำ
  3. ปวดท้องรุนแรง เด็กปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงทั่วไป
  4. มีเลือดออกผิดปกติ เช่น พบจุดเลือดออกตามผิวหนัง มีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก หรืออาเจียนเป็นเลือด
  5. ซึม เพลีย หมดแรง เด็กดูอ่อนเพลีย ซึม ตอบสนองช้า หรือแสดงอาการช็อก ได้แก่ มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันโลหิตต่ำ

เมื่อพบสัญญาณอันตรายดังกล่าว ผู้ปกครองควรปฏิบัติ ดังนี้

  • พาเด็กไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที
  • สังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด และบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วย เช่น เวลาที่เริ่มป่วย, อุณหภูมิร่างกาย, อาการที่พบ ฯลฯ
  • ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้ แต่ไม่ควรให้ทานยาแอสไพรินเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน

สำหรับการป้องกันโรคไข้เลือดออก ควรปฏิบัติดังนี้

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายโดยรอบบริเวณที่พักอาศัย
  • ทายากันยุงให้เด็กอย่างสม่ำเสมอ และสวมเสื้อผ้ามิดชิดเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกตามกำหนดหากมีบริการนี้ในพื้นที่

โดยสรุป โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่อันตราย แต่ก็สามารถป้องกันและรักษาได้หากผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจ เฝ้าระวังสัญญาณอันตรายอย่างใกล้ชิด และรีบพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อพบอาการน่ากังวล เพื่อให้บุตรหลานของเราปลอดภัยจากภัยร้ายนี้

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line