10 เคล็ดลับปลุกพลังในเช้าวันทำงาน อย่างสดใสและมีประสิทธิภาพ

แชร์ Share Facebook Share Line

เชื่อว่าคนทำงานหลายคนต้องเคยเกิดอาการ “เตียงดูด” ในทุก ๆ เช้าก่อนลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน โดยเฉพาะวันทำงานวันแรกหลังจากที่ผ่านวันหยุด หรือบางครั้งไปถึงที่ทำงานแล้ว แต่ความง่วงก็ยังไม่หายไป แถมยังรู้สึกหม่นหมอง เฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้นที่จะทำอะไร ซึ่งอาจส่งผลให้วันนั้นทั้งวันไม่สดใสและไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสดใสและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือ 10 วิธีปลุกพลังในตอนเช้าที่คุณควรรู้

1. ไม่กดเลื่อนนาฬิกาปลุก

เสียงนาฬิกาปลุกเป็นเสียงที่ดึงเราออกจากภวังค์ของการนอน สมองและร่างกายที่ถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกาจะเตรียมตัวรันระบบภายในเพื่อให้พร้อมที่จะตื่นและลุกขึ้นใช้ชีวิต แต่หากกด Snooze แล้วกลับไปนอนต่อ สมองและร่างกายที่พร้อมจะตื่นจะเข้าสู่กระบวนการนอนหลับอีกครั้ง การกดเลื่อนนาฬิกาปลุกไปเรื่อย ๆ จึงทำให้ร่างกายสับสน รบกวนวงจรการนอนหลับ ส่งผลให้ไม่สดชื่น เฉื่อยชา สมองตื้อ และไม่กระปรี้กระเปร่าเมื่อต้องลุกจากเตียง

2. เปิดไฟให้สว่างทันทีที่ตื่นนอน

ทันทีที่ตื่นนอนควรเปิดไฟในห้องให้สว่างหรือเปิดผ้าม่านรับแสงอาทิตย์ แสงสว่างมีส่วนช่วยกระตุ้นร่างกายให้เริ่มทำงาน โดยเฉพาะแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี และมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

3. ออกกำลังกายยามเช้า

การออกกำลังกายยามเช้าเป็นกิจกรรมที่ดีในการเริ่มต้นวันใหม่ ช่วยสลัดความง่วงให้หายไป หัวใจจะถูกกระตุ้น สมองปลอดโปร่ง พร้อมปลุกความกระฉับกระเฉงให้เริ่มต้นวันอย่างสดชื่น แนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างโยคะ ยืดเส้นยืดสาย หรือเดินเร็วเพื่อไม่ให้ร่างกายเสียพลังงานมากเกินไป

4. ทานอาหารเช้าเพิ่มพลังงานให้สมอง

อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการเสริมพลังงานหลังจากนอนหลับมาทั้งคืน การไม่ทานมื้อเช้าจะทำให้ระบบการเผาผลาญสูญเสียความสมดุล นอกจากจะไม่ได้รับพลังงานแล้วยังจะทำให้อ้วนง่ายขึ้น และในบางคนอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

5. หาเพลงหรือ Podcast ดี ๆ ฟัง

การหาอะไรฟังในตอนเช้าจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างอาบน้ำ รับประทานอาหารเช้า หรือระหว่างการเดินทางไปทำงาน แนะนำให้หาเพลงจังหวะสนุก ๆ หรือ Podcast ที่น่าสนใจเปิดฟัง เพิ่มระดับเสียงและเร่งจังหวะสักนิด เพื่อปลุกเร้าให้พร้อมมากกว่าเดิม

6. เริ่มต้นการทำงานด้วยงานที่ต้องใช้ความคิดมาก ๆ ก่อน

งานชิ้นแรก ๆ ที่ทำในตอนเช้าควรจะเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิหรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานเขียน งานออกแบบ หรือ Programming เพื่อช่วยให้สมองจดจ่ออยู่กับงาน กระตุ้นสมองและทำให้เราอยากทำงานมากขึ้น

7. เขียน To do list จัดระเบียบความคิดในแต่ละวัน

การเขียน To do list เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยจัดระเบียบชีวิต ทำให้เห็นภาพรวมของงานที่ต้องทำในแต่ละวัน ช่วยให้สามารถจัดลำดับของงาน และแบ่งเวลาการทำงานแต่ละชิ้นได้อย่างเหมาะสม

8. อย่าหอบงานมาทำวันหยุด

วันหยุดควรเป็นเวลาที่ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน ปล่อยให้สมองได้ว่างเปล่า ทำกิจกรรมที่อยากทำ ทิ้งความเครียดเรื่องงาน เมื่อได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้วจะมีพลังกลับมาทำงานต่อในเช้าวันจันทร์

9. จัดตารางชีวิตให้เป็นแบบแผน

การจัดการชีวิตโดยวางทุกอย่างให้มีตารางที่ชัดเจน มีแบบแผน จะทำให้รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง เคลียร์เสร็จได้หนึ่งงานก็จะรู้สึกโล่ง ลุยงานใหม่ต่อได้

10. เพิ่มประสิทธิภาพให้การนอนหลับในแต่ละคืน

การพักผ่อนให้เพียงพอในตอนกลางคืนเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรงดทานอาหาร เครื่องดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ก่อนนอน อย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการพัก ไม่ดึงพลังไปเผาผลาญอาหาร และอ่านหนังสือแทนการเล่นสมาร์ทโฟนเพื่อไม่ให้สมองตื่นจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอ

การนำวิธีเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณตื่นเช้าอย่างสดชื่น พร้อมที่จะเผชิญกับวันทำงานใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยพลังงาน

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line