โกลเด้น รีทรีฟเวอร์: เพื่อนรักขนทอง ผู้พิชิตใจคนทั่วโลก

แชร์ Share Facebook Share Line

ประวัติและต้นกำเนิด

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศสกอตแลนด์ มีความเฉลียวฉลาดและเชี่ยวชาญทางน้ำ สุนัขพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยดัดลีย์ มาร์จอริแบงค์ บารอนแห่งทวีดมัธ ที่ผสมพันธุ์สุนัขรีทรีฟเวอร์ขนสีเหลืองกับสุนัขพันธุ์ทวีด วอเตอร์ สเปเนียล ซึ่งปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีสัญชาตญาณการว่ายน้ำโดยกำเนิด ทำให้เป็นที่นิยมในการเลี้ยงเพื่อใช้ในงานราชการ เช่น การตรวจค้นสารเสพติด การเฝ้ายามรักษาความปลอดภัย และการดมกลิ่นสะกดรอย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเป็นสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด เนื่องจากมีความอ่อนโยนและเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของเป็นอย่างดี

ลักษณะทางกายภาพ

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีขนาดใหญ่ สูงประมาณ 21.5 - 24 นิ้ว น้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 24.9 - 34 กิโลกรัม พวกมันมีขนหนา 2 ชั้น มีสีขนหลายเฉด เช่น สีน้ำตาลทองเข้ม สีน้ำตาลทอง และสีเหลืองอ่อน ขนของโกลเด้นมีการผลัดขนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีลักษณะร่างกายสมส่วน แข็งแรง ร่าเริง และเป็นมิตร แม้ว่าจะมีฟันและเขี้ยวที่ใหญ่ แต่ไม่เคยปรากฏข่าวความก้าวร้าวของสุนัขสายพันธุ์นี้

พฤติกรรมและนิสัย

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีนิสัยที่เป็นมิตร สุภาพ เรียบร้อย ชอบแสดงความรักต่อเจ้าของ พวกมันมีความร่าเริง ขี้เล่น และช่างประจบเอาใจ นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่ฝึกง่ายและฉลาด ชอบทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ และมีความเป็นมิตรกับเด็กๆ ทำให้เป็นเพื่อนเล่นที่ดีสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ยังเป็นสุนัขที่ไม่ก้าวร้าว ไม่ขู่ทำร้าย และมีความจงรักภักดีสูง

ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

  • ชอบการออกกำลังกาย: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขรักกิจกรรม โดยเฉพาะการว่ายน้ำ เจ้าของควรมีเวลาพาพวกมันไปว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมร่วมกันเป็นประจำ
  • เครียดและเศร้าง่าย: สุนัขพันธุ์นี้เครียดและเศร้าง่ายหากถูกดุ ข่มขู่ หรือทำร้าย ดังนั้นเจ้าของควรใจเย็นและคอยสั่งสอนพวกมันอย่างสม่ำเสมอ
  • ต้องใส่ใจในสุขภาพและอาหาร: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีร่างกายใหญ่และกระดูกใหญ่ จึงต้องการการดูแลสุขภาพและอาหารอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

  • สุขภาพ: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีสุขภาพแข็งแรงโดยรวม แต่มีแนวโน้มจะเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อมและมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง ควรตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ และให้วิตามินหรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  • กรูมมิ่ง: ขนของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีการผลัดขนบ่อยครั้ง ควรแปรงขนทุกวันเพื่อป้องกันการพันกันและขนเป็นสังกะตัง นอกจากนี้ควรอาบน้ำให้พวกมันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งสนิท
  • การออกกำลังกาย: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง พวกมันชอบเล่นกีฬา วิ่งระยะยาว ว่ายน้ำ และทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อฝึกความคล่องตัว
  • โภชนาการ: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพสูง และควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ วันละ 2 มื้อ หลีกเลี่ยงการให้อาหารคนและอาหารที่มีไขมันสูง

อาหารสำหรับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

  • วัยเด็ก: ให้รับประทานนมในช่วงแรกเกิดจนถึง 2-3 เดือน จากนั้นเปลี่ยนเป็นอาหารเม็ดผสมกับนมหรือน้ำร้อน แบ่งให้เป็นมื้อย่อยๆ วันละ 2-3 มื้อ
  • วัยโตเต็มวัย: ควบคุมน้ำหนักของโกลเด้นไม่ให้อ้วนเกินไป ให้รับประทานอาหารเม็ดวันละ 1-2 มื้อ และควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อค้นหาวิธีให้อาหารที่ดีที่สุด
  • วัยสูงอายุ: สุนัขในวัยนี้ควรรับประทานอาหารสำหรับสุนัขวัยสูงอายุโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงอาหารปรุงสุก และควรให้วิตามินหรืออาหารเสริมจำพวกแคลเซียมเพิ่มเติม

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

  • อุปกรณ์พื้นฐาน: ปลอกคอและสายจูง แท็ก ID สายรัด
  • สิ่งจำเป็นในการให้อาหาร: อาหารสุนัขคุณภาพสูง ชามอาหารและน้ำ
  • ความสบายและการพักผ่อน: ที่นอนสุนัข ลังหรือบ้านสุนัข
  • อุปกรณ์กรูมมิ่ง: แปรงและหวี แชมพูและครีมนวด กรรไกรตัดเล็บ
  • ของเล่นและของตกแต่ง: ของเล่นสำหรับเคี้ยว ของเล่นแบบโต้ตอบ
  • ความจำเป็นด้านการดูแลสุขภาพ: การดูแลสัตวแพทย์ การป้องกันหมัดและเห็บ การป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ
  • อุปกรณ์การฝึกอบรม: ขนม คลิกเกอร์ หนังสือหรือแหล่งข้อมูลในการฝึกอบรม
  • การทำความสะอาดและสุขอนามัย: ถุงเก็บอุจจาระ อุปกรณ์ทำความสะอาด แผ่นรองฝึกขับถ่าย
  • อุปกรณ์การเดินทาง: ลังสำหรับเดินทางหรือสายรัดนิรภัย ชามใส่อาหารและน้ำสำหรับเดินทาง
  • บัตรประจำตัวและบันทึก: ไมโครชิป เวชระเบียน

สรุป

การดูแลโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการความเอาใจใส่ในเรื่องของขน เล็บ และสุขภาพโดยรวม เจ้าของควรใส่ใจเรื่องอาหารการกินและความสะอาด รวมถึงมีเวลาพาโกลเด้นไปทำกิจกรรมต่างๆ เพียงเท่านี้คุณจะได้เพื่อนสนิทสี่ขาที่พร้อมจะอยู่กับคุณไปอีกเป็น 10 ปี

ติดตามข่าวสาร

ติดตามเรา

Link to Facebook Link to Line